29 August 2011

การปรับอัตราค่าจ้าง/เงินเพิ่มพิเศษ


โดย ดร.รังสรรค์ มณีเล็ก
จดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 7/2554

วันที่ 21 ก.ค. 2554 
จดหมายเปิดผนึก  ฉบับที่ 7/2554
ชาวแผนและผู้สนใจทุกท่าน
            จดหมายฉบับนี้ออกเร็วและทันรอบเดือนที่ 7  ของปี  เนื่องจากมีข่าวดีมาบอก  และรู้สึกอิ่มเอมกับการที่ได้ไปทำบุญมาในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา  ซึ่งทุกท่านคงมีโอกาสทำกิจกรรมต่างๆ  เช่นเดียวกับผม  และความรู้สึกเราก็คงไม่ต่างกันมากนัก เรื่องที่จะคุยกับพี่น้องในจดหมายฉบับนี้ประกอบด้วย  1)การปรับอัตราค่าจ้าง/เงินเพิ่มพิเศษ  2) ทิศทางการจัดการศึกษาของรัฐบาลใหม่      3) การดำเนินการตามระเบียบบริหารงบประมาณ  4) การประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา  เริ่มเลยนะครับ

การปรับอัตราค่าจ้าง/เงินเพิ่มพิเศษ
            วันนี้มีข่าวดีที่เรารอคอย  นั่นก็คือ  กรมบัญชีกลางได้ตอบข้อหารือของ สพฐ. ตามหนังสือ      ที่ กค 0406.6/20754  ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2554  โดยอนุมัติให้ สพฐ. ปรับอัตราค่าจ้างและเงินเพิ่มร้อยละ 5  สำหรับวุฒิปริญญาตรี, ปวส., ปวช., .3/.6  ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554  เป็นต้นไป ดังนี้
เดิม
เมษายน
เพิ่ม 5%
ปริญญาตรี
7,940
8,700
9,140
ปวส.
7,100
7,300
7,670
ปวช.
5,840
6,100
6,410
.3/ม.6
5,080
5,420
5,700

ทั้งนี้ให้เจียดจ่ายจากงบประมาณของ  สพฐ. เอง  โดยไม่ของบประมาณเพิ่ม  หน้าที่ของ  สพฐ. ก็คือ  
หาเงินเหลือจ่ายประมาณ  300 ล้านบาท  เพื่อจัดสรรเป็นเงินตกเบิก  โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน  30  กันยายน  2554  ใครได้เท่าไร  คำนวณกันได้เลยครับ  รอกันนิดนึงนะครับ  เพราะต้องหาเงินเหลือจ่ายจากงาน/โครงการต่างๆ  ที่บรรลุเป้าหมายแล้ว  แต่เชื่อได้เลยว่าน้องคงถามกันเข้ามาตลอดว่าเมื่อไรจะได้  ผมก็จะตอบคำตอบเดิมครับ  ภายใน 30 กันยายน 2554  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จัดสรรและกำลังโอนเงินให้กลุ่มครูวิกฤต (เรียกย่อๆ นะ)  เป็นกลุ่มแรกแล้วครับ  นอกจากนั้นผมยังได้ตรวจสอบว่า  
มีเขตใดบ้างที่น้องๆ  อัตราจ้างยังไม่ได้รับเงินเดือนบ้าง  พบว่า   ส่วนใหญ่เป็นเขตมัธยม  ซึ่งหากไม่แจ้งข้อมูลให้  สพฐ. ทราบ   สพฐ. ก็ไม่รู้จะเอาข้อมูลใดมาใช้ในการจัดสรรครับ  ดังนั้น  ขอความกรุณาเขตพื้นที่โปรดเห็นใจน้องๆ  ที่ทำงาน 3-4 เดือน แล้วไม่ได้รับ  เงินเดือนด้วยนะครับ

ทิศทางการจัดการศึกษาของรัฐบาลใหม่
            ขณะนี้เราก็ทราบผลการเลือกตั้ง ส.ส. กันทุกท่านแล้ว  เท่าที่ทราบปฏิทินการดำเนินงานสภาฯ จะเปิดประชุมต้นเดือนสิงหาคม  เราจะได้นายกรัฐมนตรีในสัปดาห์แรกของสิงหาคม  เราจะได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนใหม่ในราวเดือนสิงหาคม  จากการวิเคราะห์นโยบายของพรรคการเมืองที่มีแนวโน้มที่จะมาเป็นรัฐบาล พบว่า  มีทิศทางดังนี้
1)    ปฏิรูปเงินเดือนและค่าตอบแทนครูให้ทัดเทียมวิชาชีพชั้นสูงอื่น
2)    พัฒนาครูอย่างต่อเนื่องโดยใช้ IT
3)    เรียนฟรีตั้งแต่แรกเกิดจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4)    โครงการ one Tablet PC Per Child
5)    โครงการตำราแห่งชาติ
6)    บรรจุสาระของหลักสูตรลงในคอมพิวเตอร์
7)    พัฒนาห้องเรียนให้เป็นห้องเรียนอิเล็กทรอนิกส์
8)    ปรับหลักสูตรให้เท่ามาตรฐานโลก
9)    พัฒนาโรงเรียนให้ได้มาตรฐาน
            ทิศทางดังกล่าวสอดคล้องกันแนวทางการปฏิรูปการศึกษารอบสองที่เราจะพัฒนาผู้เรียน ครู โรงเรียนและการบริหารจัดการ แต่จะเน้นเรื่อง  ICT แทรกเข้าไปในทุกๆ เรื่อง ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงในเรื่อง  ICT  นั้น  ต้องครบ 4 องค์องค์ประกอบ   จึงจะเกิดความสมบูรณ์  นั่นคือ  เรื่อง  Hardware, Software, People ware  และ  Network
 
การดำเนินการตามระเบียบบริหารงบประมาณ
            ได้มีการออกระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2554  ขึ้นมาใหม่  เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบฯ    พ.ศ. 2548  ข้อ 18  ที่ระบุว่า “...หากส่วนราชการจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการในการจัดหาครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้างในงบลงทุน  งบเงินอุดหนุนหรืองบรายจ่ายอื่น  ซึ่งไม่ใช่รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปี  ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว  โดยไม่เพิ่มวงเงินงบประมาณ  ไม่ต้องทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ
            ระเบียบฯ  ฉบับที่ 4  ระบุสาระสำคัญไว้ว่า  “หากเปลี่ยนแปลงสถานที่ดำเนินการ  รายการจัดหาที่ดิน/สิ่งก่อสร้าง    แตกต่างไปจากแผนการปฏิบัติงาน/แผนการใช้จ่ายงบประมาณ  อันเนื่องมาจากเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน/หมดความจำเป็น  หรือเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนถือว่า กระทบต่อสาระสำคัญของรายการต้องขอตกลงกับสำนักงบประมาณ
            เรื่องนี้ต้องเรียนให้พี่น้องทราบว่า  สพฐ. จะกำหนดชื่อของสถานที่ในการจัดหาที่ดิน/สิ่งก่อสร้าง  ลงในแผนการปฏิบัติงาน/แผนการใช้จ่ายงบประมาณ เฉพาะรายการที่มีวงเงินสูงกว่า  10  ล้าน  และก่อสร้างงบประมาณผูกพันข้ามปี  และรวมไปถึงโรงเรียนที่ของบกลางในการช่วยเหลือประสบภัยต่าง ๆ  เท่านั้น  ส่วนรายการอื่นไม่ได้ระบุชื่อไว้ในแผนดังกล่าว  ดังนั้นหากจะมีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ท่านเลขาธิการ ฯ มอบอำนาจให้แล้วครับ

การประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
            ในจดหมายฉบับก่อนผมส่งข่าวว่าจะมีการประชุม  ผอ.สพท. ในวันที่ 27-28 กรกฎาคม 2554 ที่ชลบุรี  เมื่อพิจารณาแล้วโดยความเห็นชอบของเลขาธิการ กพฐ.  เห็นว่าช่วงเวลาดังกล่าวไม่ค่อยเหมาะสม  เนื่องจาก  ผอ.สพท. ส่วนใหญ่ติดราชการ  ประกอบกับทิศทางการจัดการศึกษาของรัฐบาลชุดใหม่ก็ยังไม่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนในราวปลายเดือนสิงหาคม  ดังนั้น สพฐ. จึงได้กำหนดวันประชุม  ผอ.สพท. ใหม่  เป็นวันที่ 15-16 กันยายน 2554  สำหรับสถานที่จัดประชุมยังไม่ได้กำหนดแน่นอน  แต่มีแนวโน้มเป็นต่างจังหวัดครับ  ซึ่งการประชุมครั้งนี้  สพฐ. ต้องการให้  ผอ.สพท. ได้รับฟังนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ด้วย  และคงเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายสำหรับปีงบประมาณ  2554  โดยจะเหลือเวลาให้  ผอ.สพท.  ได้เก็บตกลงานที่เขตและจัดกิจกรรมต่างๆ  ของเขตในช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน
            ท้ายนี้ขอฝากข้อคิดจาก  ร็อกกี้  เฟลเลอร์  ซึ่งกล่าวไว้ว่า  “จะมีคุณสมบัติอื่นใดที่สำคัญต่อความสำเร็จมากเท่ากับความพากเพียร  มันเอาชนะได้ทุกอย่างแม้แต่ธรรมชาติ”  ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะครับ  แล้วพบกันใหม่...


ข้อมูลจาก http://210.246.188.61/ewtadmin/ewt/demo_0850/ewt_news.php?nid=624&filename=index


หนังสือจาก สพฐ http://202.143.189.5/E-officekk5/docs/22-08-2011-16-40-1220110822163844-24820.pdf

No comments:

Post a Comment